หน้า: 1 2 [3]
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ไสยศาสตร์  (อ่าน 15932 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
ขนาดเป็นแมวนะเนี่ย  นะนะ
บันทึกการเข้า

ฝันซ่อนสับสนวุ่นวาย หย่อนคล้อย
หมอน่ะถูกแล้ว! โวย
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
ตอนนี้ผมกำลังหาบ้านใหม่ จะย้ายบ้าน
เนื่องจากเพื่อนร่วมห้องนิยมบูชารูปเคารพ
(ก็เหมือนคนไทยบูชาทั่วไปนั่นล่ะครับ)
จะนิยมบูชาอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของผม แต่เขาเต็มไปด้วยการ"ถือ"
ทำนู่นไม่ได้ ทำนี่ไม่ได้ และบอกให้เคารพของมันหน่อยซิ
ซึ่งบอกผมแบบนี้พอๆกับบอกให้พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก

ตอบประเด็นเรื่องไสยศาสตร์ จริงๆที่เป็นคนปลอดจากเรื่องนี้
แบบไม่เหลือเยื่อไยเนี่ย ไม่ใช่ว่าโตมาแบบฝร่งฝรั่ง คนเมือง
หรือโตมาแบบห่างไกลเรื่องพวกนี้นะครับ เล่าไปก็ตลก
เพราะตอนเด็กๆป้าซึ่งเป็นหมอธรรม เคยคาดหวังว่า
ผมจะช่วยดูแลวิหารจันทร์ทิพย์ได้  โวย

อย่าพึ่งหัวเราะนะครับ ที่เล่าเป็นความจริงทุกประการ
ผมมีญาติบางท่านเป็นหมอธรรม คือหมอที่รักษาทางธรรม
แบบที่หมอแมวเจอนั่นล่ะมั้งครับ แต่ทำไปด้วยเจตนาที่ดี
ทั้งสิ้นนะครับ ไม่ได้จะหลอกเอาตังค์ มีเขียนเหล็กจารลงอักขระ
(ผมก็เขียนเป็น)เข้าทรงญาติพี่น้อง เป่าเทียน ฯลฯ เอาเป็นว่ามีหมด
แต่ก็ดีอยู่อย่าง เป็นเหตุให้ได้ฝึกสมาธิมาก พี่น้องนี่โดนหมด
ทีนี้เวลานั่งสมาธิ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าตอนนั้นมันจริงหรือไม่จริงยังไง
ที่มามันมาจากไหน แต่ผมดันเห็นอะไรต่อมิอะไรมากมาย
แสงสีทองนี่คือพื้นๆ ที่เขาตื่นเต้นมากก็คือ ผมเห็น
องค์ต้นบรมครูศาสดา (ประมาณว่าเป็นผู้นำคำสอนของ
หมอธรรมในท้องถิ่นนั้น) และท่านกำลังพูดอะไรไม่รู้กับผม
เขาเลยว่า โตขึ้นคงเหมาะสมที่จะมาทางนี้

จะบอกว่าสืบทอดวิหารจันทร์ทิพย์อะไรนี่ ก็ฟังดูการ์ตูนไปหน่อย
แต่ก็ทำนองนั้นแหละครับ  ง่ะ

ถึงตอนนี้อนุญาตให้ขำได้ครับ ผมรู้ว่ามันตลก เอือม

ตั้งแต่ช่วงที่สมาธิดีๆอายุสักสิบขวบจนถึงอายุสิบสามมั้งครับ
อะไรทั้งหลายเหล่านั้นก็หายไป เวลานั่งสมาธิผมก็ไม่เห็นอะไรอีก
ไม่รู้ว่าความลึกของสมาธิลดลงหรือเปล่า เพราะตอนช่วงนั้น
สามารถนั่งได้สามสี่ชั่วโมงไม่รู้ตัว (เด็กสิบขวบนะ)
แต่จะได้นั่งเฉพาะเทศกาลสำคัญ เพราะไปที่นั่น
เหมือนไปเยี่ยมญาติตอนวันหยุดเท่านั้น
ถ้านอกเหนือจากนั้น ก็มีแต่พ่อที่พานั่งสมาธิบ่อยครั้ง
และสอนแต่ในแง่ว่า สมาธิมันเป็นวิทยาศาสตร์

ถ้าไม่อย่างนั้นสงสัยกลายเป็นเจ้าสำนักไปแล้วกู


ปล.เป็นประวัติชีวิตที่แทบไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลยนะนี่
ที่เคยเล่าก็มีแต่คนฮา ไม่คูลเอาซะเลย อี๋~
บันทึกการเข้า

I ROCK , THEREFORE I AM
+เก้อแบบไม่มีเหตุผล  เกย์ออก
อยากนั่งสมาธิได้มั่ง แต่วอกแวกตลอดเลย
บันทึกการเข้า

ความสวยไม่รับประกัน แต่ความมันเดี๊ยนรับรอง
ผมเชื่อนะ แต่ไม่งมงาย
เพราะถ้าไม่เสียหายอะไรก็จะทำตาม
เชื่อคนเฒ่าคนแก่ไว้ก่อน เดี๋ยวแก่มาจะไม่มีคนเชื่อเรา ลันล้า
บันทึกการเข้า

กำลังโหลดข้อมูล .....
  เห็นเก้อเขียนถึงหมอธรรม เลยนึกถึงอดีตตอนเป็นเด็ก กินปลาแล้วก้างติดคอ(ไม่รู้ว่าเป็นสาเหตุให้โตขึ้นแล้วไม่ชอบกินปลาหรือเปล่า) พอก้างติดคอก็พยายามหลายวิธีนะครับ ทั้งกลืนปั้นข้าว ทั้งล้วงคอ กินน้ำอึกใหญ่ ทำอย่างไรก็ไม่ได้ผล

  พ่อก็เลยจับนั่งรถไปหาหมอกระดูก หมอคนนี้มีื่ชื่อเรื่องต่อกระดูกด้วยวิชาอาคมและน้ำมันที่ปลุกเสก แค่ก้างเล็กๆติดคอจึงดูเป็นเรื่องง่ายสำหรับหมอ หมอเสกคาถถาลงน้ำมนต์แล้วส่งให้ผมดื่มครับ พอนั่งรถกลับมาถึงบ้าน ก้างที่ติดคออย่างเหนียวแน่นมันกลับหลุดจากคอไปอย่างง่ายดาย ทั้งที่ก่อนหน้าทำยังไงก็ไม่หลุด

  แล้วไม่ใช่ผมคนเดียว เวลาป้าผมก้างติดคอ ป้าก็ไปให้หมอคนนี้รักษาเหมือนกัน แล้วก็ได้ผลด้วยซิ

  เรื่องของการนั่งสมาธิระลึกชาติ ผมไม่ได้ประสพกับตัวเองนะครับ แต่เป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการที่ผมเคยเรียนอยู่ ท่านมาเล่าให้ฟัง วันนั้นอาจารย์สอนพระพุทธศาสนาเชิญท่านมาเป็นวิทยากร ท่านเล่าถึงการทำสมาธิที่ถูกต้อง และเล่าถึงลูกศิษย์บางคนที่ท่านสอนให้นั่งสมาธิ สามารถเห็นชาติกำเนิดเมื่อชาติที่แล้วได้

   ทำเอาพวกผมนั่งสมาธิกันเพราะอยากระลึกชาติ แต่เหมือนยิ่งเราหวังผล ตั้งมั่นมากๆ ยิ่งทำให้ล้มเหลว ผมไม่เคยเห็นอะไร แต่หลังจากออกจากสมาธิดูเหมือนจิตใจสงบ สบายขึ้น ไม่วอกแวก ทำอะไรได้ถูกต้องขึ้น  ฮิ้ววว   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01 ส.ค. 2007, 10:17 น. โดย กระทาชาย » บันทึกการเข้า

สู่ความโดดเดี่ยว อันไกลโพ้น
มีจตุคาม สักองค์
รุ่นไหนก็ได้

เอามาสู้กัน
ให้มันรู้กันไปว่า
 เจ๋ง


บันทึกการเข้า

โรงเรียนสอนศิลปะทอศิลป์
น้องชายแท้ๆ ของตูเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
ทุกวันนี้แม่พาเทียวไล้เทียวขื่อระหว่างบ้านกับศิริราช ทุกอาทิตย์
ค่ายาค่ารถหมดไปหลายหมื่นแล้วมั้ง แต่มันก็อาการดีขึ้นแล้ว
ทั้งที่อาการก่อนหน้านี้ดูยังไงมันก็ไม่มีทางรอดได้เกินสักกี่เดือน (โคม่ามากๆ)

แม่:
ที่ว่าดีขึ้นนี่ไม่ได้เป็นเพราะหาหมอนะ
แต่เพราะไปกวาดยาตรงบ้านตา.. (ตาอะไรไม่รู้)
กลับมาปั๊บหายเลย



เดาตามหลักวิทยาศาสตร์ได้ว่า มันโดนของครับ เจ๋ง
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
 เจ๋ง กวาดยานี่เยี่ยมจริงๆ
บันทึกการเข้า

ฝันซ่อนสับสนวุ่นวาย หย่อนคล้อย
หน้า: 1 2 [3]
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!