หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 [9] 10 11 12 13 14 15 16 17
 
ผู้เขียน หัวข้อ: PSU.f0nt : ภาคจับเข่าคุย  (อ่าน 80414 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
น้ำชากะทิชชู่มีในพารากอนนะคะ กร๊าก
ร้านกูน่ะ
แต่อร่อยมั้ยไม่รู้ (อิอิ)


ร้านกูที่หาดใหญ่คนน้อยลงทุกวันๆ


แหม พี่ต้องไม่มาช่วงงานเกษตร ว่าจะให้เลี้ยงซะหน่อย หมีโหดดดด
บันทึกการเข้า

ที่สุดถ้ามันจะไม่คุ้ม
แต่มันก็ดีที่อย่างน้อยได้จดจำ
ว่าครั้งนึงเคยก้าวไป...
มันมาเปิดถึงพารากอนเลยเหรอเนี่ย ?
แล้วร้านน้ำชาที่พลลาดไม่ได้ตอนนี้คือร้านไหน?

ร้านแรกๆที่บูมๆ เนี่ย เป็นร้านลุงเจิมนะ
พวกพี่ๆที่คณะเนี่ยแหละไปแนะนำให้เค้าเปลี่ยนจากร้านขายยาดอง
มาเป็นร้าน้ำชา แล้วก็ช่วยกันมากินในช่วงแรกๆ บรรยากาศดี ร้านเล็กๆ เป็นกันอง  กรี๊ดดดดด

ช่วงหลังๆ เห้นว่าขยายร้านแล้วคนเยอะ ไม่อร่อย และช้า   อี๋~
บันทึกการเข้า

ฮิ้วววววววววววววววววววววววววววววว
ไม่ได้ไปแล้ว   เศร้า
บันทึกการเข้า

เลวยั้นเงา
กำลังจะไปลองกินร้านพบเพื่อนค่ะ (อิอิ)
เห็นเค้าว่าอาหารอร่อยและไม่แพง

เดือนว่าร้านกู ถ้าไปกินก็กินได้แต่ทิชชู่กะน้ำชานะ
อาหารไม่อร่อย
แถมตอนคนเยอะเค้าก็บริการไม่ค่อยจะดี

ตอนนี้ร้านกูเหมือนร้างจริงๆ นะ
แต่ที่ลองไปกิน ไมโลกะทิชชู่ยังอร่อยเหมือนเดิม

ส่วนกะโป๊ะ แนะนำร้านสวนนม กรอบ บาง อร่อย
แต่ก็แล้วแต่คนชอบอีกนั่นแหละ

ส่วนลุงเจิมไม่น่าเข้าเหตุผลเหมือนร้านกูเลยค่ะ กร๊าก

เดี๋ยวจะลองไปถามเพื่อนมานะคะที่ร้านน้ำชาที่ไหนน่าเข้าบ้าง


ว่าแต่มันเป๋ไปจากอาหารพร้อมอุ่นมากๆ แล้วนะคะ
ย้ายไปรวมกะจู๋มอ. ดีมั้ย คริคริ
บันทึกการเข้า

ที่สุดถ้ามันจะไม่คุ้ม
แต่มันก็ดีที่อย่างน้อยได้จดจำ
ว่าครั้งนึงเคยก้าวไป...
หมื่นไม้ครับ ชาชักและโรตีทิชชู่
กลับมาซักครั้ง  โกโก้แก้วควาย
Mr.Chai เบียร์วุ้น   (อิอิ)

ครับ
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
อิอิ เข้ามาอ่านแล้วนึกถึงเมื่อก่อนเลย
เดี๋ยวนี้ร้านน้ำชามีเยอะขึ้นแล้วนะคะ
มีสโนว์ไวท์ เสาไม้ บ้านสวนกาแฟ ฯลฯ
ส่วนร้านสมัยเดียวกับลุงเจิมก็มีชาโต้ง
ที่ตอนนี้ไม่ค่อยมีคนเข้าแล้ว
เพราะจะไปออกันที่ร้านโกอ้วนแทน
พูดแล้วก็อยากกิน  หื่น
บันทึกการเข้า

จะน่ารักกันไปอย่างนี้เรื่อยๆ สัญญาไว้เลย
Mr.chai ซาลาเปาทอดอร่อย   ยิ้มน่ารัก
บันทึกการเข้า
ขุด
พอดีเพื่อนส่ง foward mail มา  หมีโหด~
Prince of Songkla University เขตรั้วสีบลู เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ มอ. Oct 27, '07 12:19 AM
for everyone

ข้อมูลทั่วไป
*มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีชื่อย่อว่า ม.อ. และม.อ. เป็นมหาวิทยาลัยแรกที่ใช้คำว่า'วิทยาเขต'
*วิชาออดิโอเป็นวิชาเดียวในมหาลัยที่มีคนลงมากที่สุด
*วิชาEngป็นวิชาเดียวที่มีคนดรอปมากที่สุด
*งานรับปริญญา จะผลัดกันจัดที่ ปัตตานีกับหาดใหญ่ (แต่ตอนนี้จัดที่หาดใหญ่ที่เดียวแล้ว)
*เพลงประจำมหาวิทยาลัยแต่งทำนองโดย ครูเอื้อ สุนทรสนาน แห่งวงสุนทราภรณ์


**หาดใหญ่ ***
**โรงพยาบาลสงขลานครินทร์เป็นโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน Hospital Accreditation (HA)
**มอ.มีโรงพยาบาลทันตกรรมเป็นแห่งแรกในประเทศไทย
**คุณหญิงหลง อรรถกระวีสุนทร เป็นคนมอบที่ดินให้ ม.อ.
**ตึกฟักทอง เป็นสัญลักษณ์คณะวิดยา ที่ตอนนี้มีมีไดโนเสาร์ถึง 3 ตัวอยู่ตรงข้างๆทันตะ (ตอนนี้ทาสีใหม่แล้วนะ)
**ตึกฟักทองมีทั้งหมด 25 กลีบ
**ใต้ตึกฟักทองจะมีตู้ปลามีปลาอยู่ 2 ตัว คือพะยูน กะ ปลาวาฬ  (ตรูเพิ่งรู้นะว่ามีปลาวาฬด้วย)
**ตึกฟักทองมีทั้งหมด อยู่ 5 ห้อง ทุกห้องจะขึ้นต้นด้วยด้วย L ห้อง L 3 เป็นห้องเดียวที่มีผ้าม่านเป็นสีดำ และห้อง L 1 เป็นห้องที่ใหญ่ที่สุด
**มีคนบอกว่าห้ามนับบันไดหน้าตึกฟักทอง จะเรียนไม่จบ
**ถ้าใครโดนดอกศรีตรังหล่นใส่หัวจะเรียนไม่จบ
**ถ้าใครวิ่งรอบอ่างติดต่อกัน 5 รอบโดยไม่หยุดจะขอพรอะไรก็ได้ (บ้ารึเปล่า)
**ถ้าใครไปวิ่งรอบอ่างแล้วมองอ่างเป็นรูปหัวใจแสดงว่าคนนั้นกำลังมีความรัก
**ถ้าใครอยากได้เกียรซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวิศวะซึ่งจะได้ตอนรับน้องจบของ์ทุกรุ่น แนะนำให้ไปงมเอาที่อ่าง (ใครงมก้อบ้าแล้วน้ำมันลึก)
**หลัง ม.อ.จะมีภูเขาล้อมรอบ บรรยากาศดีมักๆๆ
**ที่โรงยิมตอนเย็นทุกวันจะมีการเต้นแอโรบิค แต่ที่คณะวิศวะจะมีคนเต้นเยอะกว่า เรียงตามอายุ และเพศ คนอายุเยอะจะอยู่ด้านหน้า อายุน้อยและกระเทยจะอยู่ด้านหลัง(แต่ตอนนี้ภาควิชาวิศวะคอมพิวเตอร์ ยึดพื้นที่คืนแล้ว.... แต่ก่อนเราก็ชอบไปเต้นแอโรบิคที่นั้นนะ)
**โรงช้างคือโรงอาหารที่เด็กม.อ.จะไปทานข้าวกัน แต่ก่อนเป็นเพิงบรรยากาศอบอุ่นเหมือนร้านอาโกในเรื่อง 'มหาลัยเหมืองแร่' มีร้านขายของชำหลายร้านเหมือนในกิมหยง แต่เดี๋ยวนี้ทุบแล้วสร้างใหม่กลายเป็นโรงอาหารประถม
**เค้าว่ากันว่าโรงช้างคือโรงอาหาร วจก.
**ในโรงช้างจะมีทีวีอยู่ 3 เครื่อง
**ในเวลาตอนเที่ยงโรงช้างคนจะเยอะมากๆๆๆ
**คาเฟตเป็นที่อ่านหนังสือของเด็ก ม.อ.ใกล้ช่วงสอบ และตึกฟักทอง**ช่วงสอบเซเว่นจะขายดีมากที่สุด
**เมื่อก่อนร้านสะดวกซื้อจะมี่โรงช้างที่เดียว คนยืนเข้าแถววนจนจะรอบร้าน แต่ตอนนี้มีกระจายตามหอแล้ว
**ม่าม่า ฯลฯ จะขายดีในช่วงสอบ
**ก่อนเข้าห้องสมุดทุกครั้งต้องแสดงบัตรนักศึกษา
**หลังเวลาเที่ยงคืนก่อนเข้าหอพักต้องแสดงบัตร
**หอพักหญิงจะปิดเวลาตี1 (ปิดช้าที่สุดในสยามประเทศ) ส่วนหอชายเหมือนเซเว่น
**ช่วงเสาร์-อาทิตย์หลายคนมักจะดูบอลที่โรงช้างและใต้หอ โดยเฉพาะวันแดงเดือด ทั้งแฟนผีแฟนหงส์จะเยอะสุดๆ
**เมื่อน้องปี 1 เข้ามาเรียนจะมีชมรมและกิจกรรมต่างๆให้เข้าร่วมกัน
เซเว่นใน ม.อ. มีอยู่ 4 ที่
**คาเฟตจะมีคนไปติวหนังสือกันมากและยุงก็เยอะมากๆๆ
**ทุกๆ วันใต้ตึก วจก.จะมีคนไปเล่นเน็ตกัน
**เวลา 7.50 นาทีเป็นเวลาที่พลุกพล่านมากที่สุด
**รถตุ๊กๆและรถสวัสดิการเป็นรถที่จะพาเด็กม.อ.ไปเรียนกัน
**เด็กปี 1 ห้ามใช้รถแต่ก็มีคนแอบเอามาใช้อยู่ดี
**ไปรษณีย์ ม.อ.จะอยู่หลังตึกอธิการบดี
**ทุกเย็นวันศุกร์มหาลัยจะเงียบเพราะเด็กจะกลับบ้านกัน
**ป้ายทะเบียนรถใน ม.อ. สข เป็นป้ายทะเบียนพบมากที่สุด
**วันแรกของการเรียนเด็กส่วนมากจะหาห้องไม่เจอ
**เมื่อเข้ามาปี 1ใหม่ๆ เด็กแพดจะใส่ไทค์สีเขียวพยาบาล สีส้ม วจก สีชมพู วิดวะ สีเลือดหมู
**วจก. เป็นชื่อย่อของคณะวิทยาการจัดการ (เป็นคณะที่เราเรียนหละ.... สีประจำคณะคือสีเฉดม่วง คือ ผสมระหว่างบานเย็นและสีม่วงอ่อน... เราก็ไม่รู้ว่าภาอังกฤษเรียกว่าอะไรนะ บางครั้งคณะเราถูกเรียกว่า วุ่นวาย จุ้นจ้าน เกะกะ ... และเราคิดว่าคงเป็นที่แรกในประเทศ ที่เอา บริหารรัฐกิจ(รัฐประศาสนศาสตร์ มารวมกับ บริหารธุรกิจ แล้วเปิดเป็นคณะวิทยาการจัดการ)
**เมื่อขึ้นปี 2 เด็กพยาบาล แพทย์ จะย้ายไปอยู่หอเฉพาะ (เป็นหอรวมชายหญิงด้วยหละ)
**ตอนเย็นใต้ตึกพยาบาลจะมีคนมารำไทเก็ก ตอนนี้มีโยคะ ด้วยนะ
**คณะทันตะมีโรงพยาบาลทันตกรรมเป็นแห่งแรกของประเทศ
**ช่วงเที่ยงคืนเป็นต้นไปหลังสอบจะมีคนวิ่งแก้บน แล้วก็เช็ดลานพระบิดา
**สนามฟุตบอลม.อ.มีอยู่ 2 สนาม คือ
*สนามบน เป็นชื่อเรียกของสนามที่อยู่ต่างระดับกันอยู่ข้างบน
*สนามล่าง เป็นชื่อเรียกของสนามที่อยู่ระดับต่ำกว่า
**วงเวียนในม.อ.มีอยู 6 ที่
**คณะ อก.เป็นคณะที่อยู่ไกลที่สุด ถัดมาก็เป็นคณะทรัพย์
**หลายคนมากที่ไม่เคยไปคณะ อก. (แต่เราเคยไป)
**หลังสอบที่ทะเบียนกลางเป็นที่นักศึกษาฮิตที่จะไปมาก โดยเฉพาะช่อง 11
**สมัยที่ยังไม่มีระบบลงทะเบียนออนไลน์ มีคนไปรอลงทะเบียนตั้งแต่เที่ยงคืน(เราก็มีโอกาสสัมผัสบรรยากาศนี้หละ พออยู่ปี 3-4 ก็ได้เป็นรุ่นแรกที่ลงทะเบียน แล้วก็ดูเกรดออนไลน์ แต่ก่อน เวลาไปเอาเกรด ก้ต้องไปรับที่ทะเบียนกลางต่อแถว)
**วันสุดท้ายของการดรอปรายวิชาหน้าทะเบียนกลางจะมีคนต่อแถวยาวมากๆๆ
**ครั้งแรกที่ดรอปคนส่วนมากอายที่จะไปดรอปไม่กล้าไปทะเบียนกลางไม่กล้าบอกเพื่อนว่าดรอปพออยู่นานๆไป การดรอปเป็นเรื่องปกติ
**คนขับจักรยานยนต์ส่วนมากมีหมวกกันน็อคไว้กันยาม(เด็ก มอ. โวยวายว่า ยามไม่ใช่ตำรวจไม่มีสิทธิ์จับนะในมหาวิทยาลัยที่เป็นถนนหลวง หลัง ๆ เค้าก็เลย เอาจราจรมาจับกันจริง ๆ เลย มีถ่ายวิดิโอเก็บด้วย)
**วิดวะเป็นคณะที่มีผู้ชายมากที่สุด
**คณะวิศวะเข้าง่ายแต่จบก่อนหลักสูตรง่ายกว่า
**พยาบาลเป็นคณะมีผู้หญิงมากที่สุด น่ารักด้วย (ความคิดส่วนตัว) **ผู้ชายน้อยสุด ซึ่งเท่าทีมีก็ไม่ใช่ชายแท้ แต่เราคิดว่า สาววจก. น่ารักกว่า เยอะกว่าด้วย อิอิ
**หอ3-4 เป็นหอเดียวที่อยู่ด้วยกัน และเป็นหอที่มีเรื่องเล่ามากที่สุด เราอยู่ หอ 3-4 นี้แหละ อยู่ในเหตุการณ์ จับผีผ้าห่มด้วย อิอิ
**ในห้อง NML จะมีเก้าอี้เป็นสีส้ม ไปเรียนเคมีเบื้องต้นตอนปี 1 หลับตลอด พอหลังสอบกลางภาคก็ไม่เคยเข้าเรียน สุดท้ายได้แค่ ซีบวก
**NML ย่อมาจาก New Multiple Lab
**ตรงทางเข้าตึก NMLจะมีป้ายสีแดงเขียนไว้ว่า โปรดระวังศีรษะ
**ถ้าจะจีบสาวพยาบาลให้จีบตั้งแต่ปี 1 พอปี 2 จะไม่เจอหน้าแล้ว
**ตอนเปิดเทอมใหม่จะมีของขายที่ใต้ตึกกิจ เรียกว่าขายของน้องใหม่ และจะเป็นของที่แพงที่สุดเพราะเด็กใหม่จะยังงงงง และไม่รู้ว่ามันแพง คนขายเป็นบรรดารุ่นพี่ ที่รับของมาจากร้านในตลาด และเอาเฉพาะของถูกๆ มาเพิ่มกำไรขาย
**พอสิ้นเทอมแรกจะมีเพื่อนที่ต้องจากเราไปก่อนเวลาอันสมควร Roomate เราก็เช่นเดียวกัน
**ม.อ. จะมีโลตัสอยู่หน้ามหาลัย
**รถ 2 แถวหน้าม.อ.ราคา 10 บาท
**ประตู 108 และประตู 109 เป็นประตูอยู่ทางทิศตะวันออก
**ประตูทางทิศตะวันออกชื่อประตูศรีทรัพย์
**ประตูหลักๆ มีทางออกอยู่ 4 ที่ เปิดใช้แค่ 3 ที่
**ตลาดนัดเกษตร เปิดขายของทางคณะทรัพย์
**ในมหาลัยมีปั้มน้ำมันอยู่ 2 ที่ อยู่ใกล้ประตูหน้ ม.อ. และก็คณะวิดวะ (ไบโอดีเซล)
**ช่วงเดือนสิงหาคม จะมีงานเกษตรภาคใต้ มีของขายเยอะมากๆๆ
**คนส่วนมากชอบที่จะกระโดดข้ามคลองมากกว่าจะเดินไปหายาม

** อีกเรื่องคือ ห้ามขับมอเตอร์ไซค์ซ้อน 3  คือนั่ง 3 คน แต่เด็ก มอ. ก็นั่งซ้อน 3 กัน แล้วคนขับก็ไม่ใส่หมวกกันน๊อค พอเข้าหน้าประตู คนที่ซ้อน ก็ลงเดิน คนขับก็ใส่หมวก พอผ่านยามไปสัก 2 เมตร ก็ใส่หมวกนั่งซ้อน 3 เข้ามหาวิทยาลัยเป็นปกติ ส่วนเราไม่เค๊ย ไม่เคยทำอย่างนั้นนะ เพราะ ปะป๊า รับส่ง ยันจบ ปี 4


**หลายคนโดนยามจับเพราะกระโดดข้ามคลอง
**ยามชอบแอบหลับช่วงตี 3 กว่าๆๆ
**เปิดเรียนวันแรกๆๆทุกคนจะตื่นเช้า หลังจากนั้นจะขี้เกียจตื่นไปเรียน
**หน้าตึกฟักจะมีช้างอยู่ 2 ตัวสังเกตดีๆ และเยื้องๆมี อีก 2 ตัวคือแม่กะลูก และด้านข้าง 1 ตัว
**ตึกไดโนเสาร์เป็นชื่อเรียกของตึก วท.ที่มีไดโนเสาร์อยู่หน้าตึก
**คณะ วจก. เป็นคณะที่อยู่ใกล้หอมากที่สุด
**ส่วนมากสาว วจก. จะเป็นสาวมั่นมากๆๆๆๆน่ารักด้วย ---เห็นด้วยอย่างแรงงงงงง อิอิ
**บางคนบอกว่า มอ. ย่อมาจาก มาอ้วน แต่ก็อ้วนจริงๆๆอิอิอิ
**ว่ากันว่า ใครเดินผ่าน love path ระหว่างวจก. กับศูนย์คอมฯ จะมีคู่ อันนี้ขอเถียง เดินมากว่าพันเที่ยว เป็นเวลา หลายร้อย - พัน ชั่วโมง ยังไม่มีคู่จนบัดนี้.......เศร้า
**คณะวิทย์มอ. มีสนามฟุตบอลอยู่กลางคณะ ที่สำคัญมีต้นไม้ตั้งตระหง่านกลางสนาม
**มอ. หาดใหญ่ อยู่หน้าเขา ส่วนมอ. ปัตตานีติดทะเล(โคลน)
**ทุกปีในช่วงวันรับปริญญาใครที่รูมเมทหรือเป็นเด็กวจก.ต้องระวังตัวเป็นพิเศษ
**ร้านน้ำชาสุดฮิตที่ 'ม.สงขลานครินทร์' ชื่อ 'สวนลุงเจิม' แต่บางตำราบอกว่าผิดครับ ต้องเป็นร้านชาโต้งและโกอ้วน ฮิตกว่าเยอะ และที่สำคัญ........... ร้านลุงเจิมไม่ได้อยู่ที่ 'ม.สงขลานครินทร์'!!!
ปี 50 จะเป็นปีท้ายๆที่รับที่ห้องทองจันทร์ ปีถัดๆไปจะไปที่ศูนย์ประชุมแล้ว
**ใต้ตึกวิศวคอมมีป้ายสีน้ำเงินแปะที่เสาเขียนว่า 'ห้ามรำมวยจีน'
**เรียนวิศวะฯจบสี่ปี ที่นี่เรียก lnw
**ที่หอสมุดคุณหญิงหลง อรรถกระวีสุนทร (ชื่อห้องสมุดที่นี่)มีคนมาหางานทำวิจัยโคตรเยอะ!
**ถ้ามามอ.แล้วไม่เข้าโรงช้างถือว่ามาไม่ถึง
**ที่นี่ สุขภาพเกรดของนักศึกษาเป็นสิ่งที่น่าห่วงกว่าสุขภาพกาย
**หากมีลูกหลานที่ท่านรัก โปรดอย่าส่งมาเรียนวิทยาฯ เพราะแค่ปีหนึ่งก็ปางตายกันเกือบทุกคน
**แต่ถ้ารอดจากปีหนึ่งได้ ปีต่อไปก้อไม่ค่อยมีอะไรแล้ว วิดยามีเปอร์เซนต์การซิ่ว เปอร์ น้อยกว่าวิดวะอีกนะ
**ถึงยังไงตอนนี้ก้อยังมีคนเรียน ป.ตรีวิดยาเป็นปีที่แปด ซึ่งหาได้ยากมากๆ
**ช่วงสองอาทิตย์ก่อนสอบ หอสมุดจะปิดเที่ยงคืนและมีบริการเสริมที่นั่ง ซึ่งถ้าไปช้า ท่านจะอด
**หอสามสี่ผีเยอะสุด
**ดึกๆเลยเที่ยงคืน ใต้ตึกกิจจะมีแต่คนแปลกๆ (ลองสังเกตดู)
**เด็ก มอ ชอบเล่น DotA โดนเฉพาะใต้หอ 11 (Want ไหม สาดดดดดดดดดด)
**คาเฟตไม่มีแล้ว ปรับปรุงเป็นอาคารพยาบาลและแพทย์แผนไทยไปแล้ว
**ร้านหน่อนั้ง เป็นร้านการ์ตูนที่เด็กมอ อ่านเยอะที่สุด
**ตึกคณะวิศวะกรรมศาสตร์เป็นตึก 2 แห่งในประเทศไทย
**ตึกคณะวิดวะ มี ตึก A ซึ่งเรียนแล้วไม่ค่อยได้ A
**ตึกโรบอท เป็นตึกที่สร้างเลียนแบบหุ่นยนต์(ต้องมองจาก Top View นะจ๊ะ)
**ตึกฟักทองมาจากตึกจานบินของมหิดล
**ตึกหุ่นยนต์คือตึกเรียนของภาควิศวกรรมคอมพิวเตอร์ โดยมีหัวหุ่นเป็นห้องประชุม
**ส่วนตึก A คือตึกแรกของคณะวิศวกรรมศาสตร์
**พนักงานหอพัก 10 11 ร้ายเหลือ บริการไม่ดี
**หอใหม่ 8 9 10 11 เป็นหอพักที่สูงมากๆ น่าจะเป็นหอในที่สูงสุดในไทยแล้วมั้ง เพราะมีถึง 15 ชั้น สูงพอๆ กับพารากอนเลยล่ะ
แต่คู่แข่งใหม่กำลังจะมา นั่นคือ หอพักแพทย์ที่สูง 15 ชั้นเหมือนกัน
**มอ. ไม่มีหอพักสำหรับนักศึกษาทันตะ
**นิติกับเสดสาดกำลังจะมีที่ตั้งคณะเป็นของตัวเองแล้ว (ใกล้กับสินสาด)
**หอ 10 ใครที่อยู่ห้องมุมฝั่งเยื้องหอ 6 จะได้เห็นอ่างน้ำ และสนามซอฟท์บอลด้วย บรรยากาศส่วนตัวสุดๆ
**อีกไม่นานหอสมุดจะย้ายไปตึก LRC (ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้) แล้ว
**วิดยาเป็นคณะเดียวในมอ. หาดใหญ่ ที่มีพิพิธภัณฑ์ (เปิดวันพุธ-อาทิตย์) แต่จะครึกครื้นเฉพาะสัปดาห์วิทย์กับวันเด็ก
**วิดยาอีกเช่นกัน เป็นคณะที่มีภาควิชามากที่สุดในมอ.
**Big Four ของ มอ. หาดใหญ่ คือ วิศวะ วิดยา วจก. และทรัพย์
**รักบี้ Freshy ของวิดยา มีเด็กทุนมาเล่นด้วยทุกปี และก้อมีเจ็บทุกปีเช่นกัน
**CoE ร้ายกาจ มากมาย อิอิ
**ทุกปีในช่วงกลางเดือนสิงหา ช่วงกลางวันวิดยาจะคึกคัก (เพราะมีงานสัปดาห์วิทย์ฯ) แต่ช่วงกลางคืนทรัพย์ฯ จะคึกคักเช่นกัน(เพราะมีงานเกษตรฯ)
**มอ.หาดใหญ่ เป็นมหาลัยแรกในประเทศที่มีโลตัสอยู่หน้ามอ (มวล.กำลังจะเป็นแห่งที่สอง)
**ฟาต้าย้ายไปหอ 11 แล้วจ้า
**วิดยาผู้หญิงมักเป็นแฟนกับเด็กวิดวะ ส่วนผู้ชายมักเป็นแฟนกับพยาบาล
**วิดวะส่วนใหญ่เป็นแฟนกับเด็กวจก.
**ทุกปี จะมีบัณฑิตวิทยาศาสตร์เกียรตินิยม ที่เคยเป็นว้าก อย่างน้อย 1 คน
**ถ้ามา มอ.หาดใหญ่แล้วได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์ ไม่ต้องตกใจ เพราะมอ.เราอยู่ห่างจากค่ายทหารเพียงไม่ถึง 1 กิโลเมตร
**ที่นี่เราเรียกคณะเกษตรว่า คณะทรัพยากรธรรมชาติ
**วิดยาเป็นคณะแรกของมหาวิทยาลัยที่มีทีมรักบี้
**จบวิดยาที่นี่ทำงานได้หลายอย่าง แม้กระทั่งมือกีตาร์
**หอห้า มอ. หาดใหญ่เป็นหอหญิงมาก่อน(เป็นหอหญิงที่มีโถ 4)
**หอ 12-13 มอ. หาดใหญ่เคยเป็นหอชาย
**วิศวะที่นี่ ได้ชื่อว่าเรียนโหดที่สุดในประเทศ
**วิชา Electric Circuit เป็นวิชาที่เด็กติด E มากที่สุด
**และกลศาสตร์ควอนตัม (วิชาปี 4) ของวิดยาที่นี่ ก้อได้ชื่อว่ายากที่สุดในประเทศเช่นกัน
**วิดยามีนักกีฬาตัวแทนจังหวัดไปแข่งกีฬาแห่งชาติด้วย (แต่ไม่ค่อยมีใครรู้)
**ในงานรับปริญญาเมื่อก่อนจะตั้งแถวเดินจากตึกฟักทอง แต่ช่วงปีหลังๆ จะเดินจากตึกคณะพยาบาล เพราะใกล้กว่า
**ห้องทองจันทร์เป็นห้องประชุมไฮโซสุด
**ถ้าไปที่วิดยาแล้วฝันถึงอะไรเหลี่ยมๆ ไม่ต้องตกใจ เพราะวิดยามีแต่ 'เหลี่ยม' ตึกคณะก้อมีหินขัดสี่เหลี่ยม ลานหินแตกก้อมีลายสามเหลี่ยม
***เกี่ยวกับบูม
**บูมวิดวะกับวิดยาเป็นบูมคู่ขนาน (ขึ้นต้นคล้ายกัน จังหวะคล้ายกัน อยากรู้เป็นยังไงต้องไปฟังเอาเอง)
**บูมทันตะจะเหมาะสำหรับฝึกกำลังขาเป็นอย่างมาก
บันทึกการเข้า


มีอัพเดต แหะ  กรี๊ดดดดด

บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย


นักสถิติของ มอ. ทำไว้เหรอคะ
บันทึกการเข้า

Las Noches Rubicundior
พวกศิษย์เก่า น่ะ  เกย์ออก
บันทึกการเข้า
ต้องแบ่งเป็นยุคด้วยนะฮิ อันนี้ซ้ำเยอะมั่กมาก หมีโหด~

บันทึกการเข้า
แอบอ้าง
** อีกเรื่องคือ ห้ามขับมอเตอร์ไซค์ซ้อน 3  คือนั่ง 3 คน แต่เด็ก มอ. ก็นั่งซ้อน 3 กัน แล้วคนขับก็ไม่ใส่หมวกกันน๊อค พอเข้าหน้าประตู คนที่ซ้อน ก็ลงเดิน คนขับก็ใส่หมวก พอผ่านยามไปสัก 2 เมตร ก็ใส่หมวกนั่งซ้อน 3 เข้ามหาวิทยาลัยเป็นปกติ ส่วนเราไม่เค๊ย ไม่เคยทำอย่างนั้นนะ เพราะ ปะป๊า รับส่ง ยันจบ ปี 4

 กรี๊ดดดดด  ชอบอันนี้




 ไหว้  อ่านแล้วคิดถึง ม.อ. จัง
บันทึกการเข้า
เด็กมอ. รายงานตัวครับ หมีโหด~/
บันทึกการเข้า
หากเอ่ยคำลา แก้วตาเธออย่าร้องไห้   ....ไม่เปลี่ยนแปรไปหากใจเรายังมั่นคง

สบตาอีกครั้ง  แทนรักและความห่วงใย    แว่วเสียงรถไฟ ฟากไว้เพียงคำสัญญา

 หมีโหด~
บันทึกการเข้า

ล้ำลึกคนึงหาในดวงจิต ใจเคยคิดตัดสวาทมิอาจสิ้น
ดั่งก้านบัวหักกลางชลาสินธุ์ ผิว่าสิ้นไร้เยื่อยังเหลือใย
หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 [9] 10 11 12 13 14 15 16 17
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!