หน้า: [1] 2 3 4 5
 
ผู้เขียน หัวข้อ: อัจฉริยะสร้างได้  (อ่าน 22687 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
ใครได้ดูจับเข่าคุย ช่อง3 วันที่ 14 กค อะครับ
มันมีเรื่องเกี่ยวกับอัฉริยะสร้างได้ อะไรซักอย่างเป็นหนังสือ อยากได้ข้อมูลจังเลย
ใครรู้บอกหน่อยนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 ก.ค. 2007, 05:27 น. โดย uuuuuɐı » บันทึกการเข้า

http://www.geniuscreator.com/
บันทึกการเข้า
ไม่ได้ดูครับ
แต่โดยส่วนตัว ไม่มีความเชื่อหรือศรัทธาในด้านนี้เท่าใด
(แต่ก่อนเชื่อนะ พวกจิตคณิต หรืออะไรเทือกนั้น แต่ช่วง10ปีหลังเริ่มไม่เชื่อแล้ว) ฮิ้ววว
บันทึกการเข้า

ฝันซ่อนสับสนวุ่นวาย หย่อนคล้อย
ไม่ได้ดูครับ อะไรเหรอ
บันทึกการเข้า

ในหมู่คนตาบอด คนตาบอดข้างเดียวได้เป็นราชา
ไม่ได้ดูครับ
บันทึกการเข้า

สะพรึบสะพรั่ง ณหน้าและหลัง ณซ้ายและขวา ละหมู่ละหมวด ก็ตรวจก็ตรา ประมวลกะมา สิมากประมาณ
ไม่ได้ดูเหมือนกัน แต่เพื่อน fw มาให้เป็นแบบนี้


แอบอ้าง
รายการจับเข่าคุย กับคุณวนิษา เรซ หรือคุณครูหนูดี น่าสนใจมาก รายการจับเข่าคุย กับคุณวนิษา เรซ
น่าสนใจมาก อัจฉริยะสามารถสร้างได้ และแนวคิดเกี่ยวกับการศึกษาไทย สุดท้ายที่ได้จากการดูรายการคือการคิดบวก ความสร้างสุขทุกๆวัน เลยเสริชข้อมูลมาแบ่งกัน...

" 9 เทคนิค ฝึกสมองไบรท์ "
โดย วนิษา  เรซ ผู้วชาญด้านอัจฉริยภาพจาก ม.ฮาร์วาร์ด

ผู้หญิงสมัยนี้ อยากสวย ฉลาด และสุขภาพดี ทุกคนจึงพากันดูแลรูปร่าง ด้วยการออกกำลังกาย เคร่งครัดเรื่องอาหารการกิน แต่ไม่เคยมีใครสนใจว่าจะดูแลสมองอย่างไรให้มีสุขภาพดี ทั้งที่สมองเป็นอวัยวะที่ตัดสินใจทุกเรื่องของชีวิต เราจึงควรเอกเซอร์ไซส์สมองให้ไบรท์ด้วยเทคนิคง่าย ๆ ต่อไปนี้

1.  จิบน้ำบ่อย ๆ
สมองประกอบด้วยน้ำ 85 % เชลล์สมองก็เหมือนต้นไม้ที่ต้องการน้ำหล่อเลี้ยง ถ้าไม่มีน้ำ ต้นไม้ก็เห่ยว ถ้าไม่อยากให้เชลล์สมอง  เห่ยว ซึ่งส่งผลให้การส่งข้อมูลช้า กลายเป็นคนคิดช้าหรือคิดไม่ค่อยออก แต่ละวันจึงควรดื่มน้ำบ่อย ๆ

2.  กินไขมันดี
คนไม่ค่อยรู้ว่าสมองคือก้อนไขมัน ซึ่งจำเป็นต้องมีไขมันดีไปทดแทนส่วนที่สึกหรอ แนะนำให้กินไขมันดีระหว่างวัน จำพวกน้ำมันปลา สารสกัดใบแปะก๊วย ปลาที่มีไขมันดีอย่าง ปลาแซลมอน นมถั่วเหลือง วิตามินรวม น้ำมันพริมโรสเป็นน้ำมันดี ที่ทำให้เชลล์ชุ่มน้ำ ส่วนวิตามินซีกินแล้วสดชื่น

3.  นั่งสมาธิวันละ 12 นาที
หลังจากตื่นนอนแล้ว ให้ตั้งสติและนั่งสมาธิทุกเช้า วันละ 12 นาที เพื่อให้สมองเข้าสู่ช่วงที่มีคลื่น Theta ซึ่งเป็นคลื่นที่ผ่อนคลายสุด ๆ ทำให้สมองมี Mental Imagery สามารถจินตนาการเห็นภาพและมีความคิดสร้างสรรค์ ( ถ้าทำไม่ได้ตอนเช้า ) ให้หัดทำก่อนนอนทุกวัน

4.  ใส่ความตั้งใจ
การตั้งใจในสิ่งใดก็ตาม เหมือนการโปรแกรมสมองว่านี่คือสิ่งที่ต้องเกิด ระหว่างวันสมองจะปรับพฤติกรรมเราให้ไปสู่เป้าหมายนั้น ทำให้ประสบความสำเร็จในสิ่งต่าง ๆ เพราะสมองไม่แยกระหว่างสิ่งที่ทำจริงกับสิ่งที่คิดขึ้น ทั้งสองอย่างจึงเป็นเสมือนสิ่งเดียวกัน

5.  หัวเราะและยิ้มบ่อย ๆ
ทุกครั้งที่ยิ้มหรือหัวเราะ จะมีสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข หลั่งออกมาเท่ากับเป็นการกระตุ้นให้มีความอยากรักและหวังดีต่อคนอื่นไปเรื่อยๆ

6.  เรียนรู้สิ่งใหม่ทุกวัน
สิ่งใหม่ในที่นี้หมายถึง สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น กินอาหารร้านใหม่ ๆ รู้จักเพื่อนใหม่  อ่านหนังสือเล่มใหม่ คุยกับเพื่อนร่วมงานและเรียนรู้วิธีการทำงานของเขา เป็นต้น เพราะการเรียนรู้สิ่งใหม่ทำให้สมองหลั่งสารเอ็นโดรฟิน และโดปามีน ซึ่งเป็นสารแห่งการเรียนรู้ กระตุ้นให้อยากเรียนรู้และสร้างสรรค์ ไปเรื่อย ๆ เมื่อมีความสุขก็ทำให้มีความคิดสร้างสรรค์

7.  ให้อภัยตัวเองทุกวัน
ขณะที่การไม่ให้อภัยตัวเอง โกรธคนอื่น โกรธตัวเอง ทำให้เปลืองพลังงานสมอง การให้อภัยตัวเอง เป็นการลดภาระของสมอง

8.  เขียนบันทึก Graceful Journal

ฝึกเขียนขอบคุณสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นแต่ละวันลงในสมุดบันทึก เช่น ขอบคุณที่มีครอบครัวที่ดี ขอบคุณที่มีสุขภาพที่ดี ขอบคุณที่มีอาชีพที่ทำให้มีความสุข เป็นต้น เพราะการเขียนเรื่องดี ๆ ทำให้สมองคิดเชิงบวก พร้อมกับหลั่งสารเคมีที่ดีออกมา ช่วยให้หลับฝันดี ตื่นมาทำสมาธิได้ง่าย มีความคิดสร้างสรรค์

9.  ฝึกหายใจลึก ๆ
สมองใช้ออกชิเจน 20 25 % ของออกชิเจนที่เข้าสู่ร่างกาย การฝึกหายใจเข้าลึก ๆ จึงเป็นการส่งพลังงานที่ดีไปยังสมอง ควรนั่งหลังตรงเพื่อให้ออกชิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น ถ้านั่งทำงานนาน ๆ อาจหาเวลายืนหรือเดินยึดเส้นยืดสายเพื่อให้ปอดขยายใหญ่ สามารถหายใจเอาออกชิเจนเข้าปอดได้เพิ่มขึ้นอีก 20 %

    การมีสมองที่ดีก็เหมือนทักษะทุกอย่างในโลกที่เรียนรู้ได้ แต่จะเก่งหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน ถ้าเราดูแลและฝึกฝนสมองให้ดี คุณภาพชีวิตก็จะดีตาม


ปล. อ่านๆ ดูแล้ว .... ตกลงมันจริงใช่ไหมครับ
บันทึกการเข้า

where there's a will there's a way


ทำได้ครบก็โอแล้วละครับ  คริคริ
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
แม้ว่าหลักทางวิทยาศาสตร์ที่กล่าวในนั้นจะผิดๆเพี้ยนๆไปบ้าง แต่มันก็โอเคครับ ....  เอือม ถ้าไม่ได้เข้าไปดูในเวปนั้น
บันทึกการเข้า

ฝันซ่อนสับสนวุ่นวาย หย่อนคล้อย
ผมได้ดูรายการนี้ครับ

หนังสือเล่มนี้ก็อ่าน

ลองหามาอ่านดูครับ
อะไรอย่างอื่นผมไม่รู้

แต่เขาเขียนหนังสือได้อ่านง่ายมาก
มีประโยชน์ต่อโลก ดีด้วยครับ


ส่วนคุณภาพ ชีวิตที่เป็นเมล์ลูกโซ่
อ่านหนังสือเต็มๆ ดีกว่า ย่อยเอาเอง
บันทึกการเข้า

ผมได้ดูรายการนี้ครับ

หนังสือเล่มนี้ก็อ่าน

ลองหามาอ่านดูครับ
อะไรอย่างอื่นผมไม่รู้

แต่เขาเขียนหนังสือได้อ่านง่ายมาก
มีประโยชน์ต่อโลก ดีด้วยครับ


ส่วนคุณภาพ ชีวิตที่เป็นเมล์ลูกโซ่
อ่านหนังสือเต็มๆ ดีกว่า ย่อยเอาเอง
อ่านของพี่ระจันแล้วเลยสะกิดใจ
เข้าไปอ่านให้ละเอียดอีกครั้ง

 ฮือๆ~ ฮือๆ~ ฮือๆ~ ฮือๆ~
เอาล่ะ
แอบอ้าง
ไม่ได้ดูครับ
แต่โดยส่วนตัว ไม่มีความเชื่อหรือศรัทธาในด้านนี้เท่าใด
(แต่ก่อนเชื่อนะ พวกจิตคณิต หรืออะไรเทือกนั้น แต่ช่วง10ปีหลังเริ่มไม่เชื่อแล้ว)
ตอนเด็กๆ ค่อนข้างตื่นเต้นไปกับเทคนิคช่วยจำแบบต่างๆ ตื่นเต้นกับการบวกเลขลบเลขอย่างรวดเร็ว
แต่ต่อมาก็รู้ว่าหลักสูตรที่ทำให้เราแค่บวกเลขเร็วอย่างเดียว มันไม่ได้คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปเลย

แอบอ้าง
แม้ว่าหลักทางวิทยาศาสตร์ที่กล่าวในนั้นจะผิดๆเพี้ยนๆไปบ้าง แต่มันก็โอเคครับ ....  เอือม ถ้าไม่ได้เข้าไปดูในเวปนั้น
เช่นกันครับ ลองดูในFwd แล้ว มันตะหงิดใจ
การจิบน้ำบ่อยๆ ไม่ได้ทำให้สมองดีขึ้นแต่อย่างใด (ถ้าปกติคุณดื่มน้ำพอ)
การกินไขมันดีๆจากไอ้นั่นไอ้นี่ก็ไม่ได้ทำให้สมองดี ถ้าปกติกินอาหารที่ดีอยู๋แล้ว
การนั่งสมาธิ ถ้าไม่ฝึกจริงๆ ก็ไม่ได้คลื่นอะไรที่ว่านั่น

ก็เลยเกิดความรู้สึกติดลบ

พอตะกี้อ่านของพี่ระจัน ก็เลยลองไปอ่านเนื้อหาในWebนั้น

อ่านเทคนิกที่เขาใช้ อ่านวิธีการและแนวคิด ก็เลยพบว่า
 ฮือๆ~ ฮือๆ~ ฮือๆ~
ผมพลาดไปแล้วครับ ดันไปติและวิจารณ์ของจริงเข้าจนได้ เพราะแนวคิดวิธีการที่ว่ามันคือของที่ใช้กันจริงและที่จริงก็ใช้กันทั่วไปในมหาวิทยาลัยหลายแห่ง

ขอโทษครับ ที่อ่านไม่ละเอียด ติเรือทั้งโกลน  ฮือๆ~ ฮือๆ~ ฮือๆ~ ฮือๆ~ ฮือๆ~ ฮือๆ~ ฮือๆ~ ฮือๆ~ ฮือๆ~ ฮือๆ~ ฮือๆ~ ฮือๆ~ ฮือๆ~ ฮือๆ~ ฮือๆ~ ฮือๆ~ ฮือๆ~ ฮือๆ~ ฮือๆ~
บันทึกการเข้า

ฝันซ่อนสับสนวุ่นวาย หย่อนคล้อย
 ยิ้มน่ารัก

ผมอ่านหนังสือ อัจฉะริยะสร้างได้
นี่อย่างอิ่มเอมเลยครับ
ด้วยความที่ว่า เขาเขียนเรื่องยากมาก
ออกมาให้สนุก ...มากด้วย

ผมไม่ได้คาดหวังว่าผมอ่านแล้วจะต้องเป็น
หรือเอาไปใช้กับลูกหรือใครอื่นแล้วเขาต้องเป็น
อัจฉริยะ
แต่ก็มีประโยชน์ อย่างน้อยๆ ก็วิธีคิดทั้งหลาย
ทำให้เรากลมกล่อม ขึ้นครับ กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า

หมดยุคอัจฉริยะเพี้ยนๆ พี้กันตายตอนอายุยังไม่ถึงสามสิบแล้วเหรอ 555
บันทึกการเข้า

ในหมู่คนตาบอด คนตาบอดข้างเดียวได้เป็นราชา
" 9 เทคนิค ฝึกสมองไบรท์ "
โดย วนิษา  เรซ ผู้วชาญด้านอัจฉริยภาพจาก ม.ฮาร์วาร์ด

9 ข้อนี้ ผมว่าทำดูก็ไม่เสียหายครับ ถึงแม้นมันจะไม่ได้ทำให้เราฉลาดขึ้นแต่ก็ทำให้เราใช้ชีวิตประจำวันได้ดีขึ้นได้ครับ

แอบอ้าง
1.  จิบน้ำบ่อย ๆ
สมองประกอบด้วยน้ำ 85 % เชลล์สมองก็เหมือนต้นไม้ที่ต้องการน้ำหล่อเลี้ยง ถ้าไม่มีน้ำ ต้นไม้ก็เห่ยว ถ้าไม่อยากให้เชลล์สมอง  เห่ยว ซึ่งส่งผลให้การส่งข้อมูลช้า กลายเป็นคนคิดช้าหรือคิดไม่ค่อยออก แต่ละวันจึงควรดื่มน้ำบ่อย ๆ

การจิบน้ำบ่อย ๆ จะดีกว่าการกินน้ำทีเดียวรวดเดียวเยอะ ๆ
อันนี้เคยได้ยินมาว่าการกินน้ำรวดเดียวเยอะ ๆ ทำให้ไตต้องทำงานมากกว่าปกติ เพราะน้ำปริมาณที่มาเกินไปมันจะต้องถูกขับออกมาหมดโดยที่ร่างกายไม่ได้ใช้

แอบอ้าง
2.  กินไขมันดี
คนไม่ค่อยรู้ว่าสมองคือก้อนไขมัน ซึ่งจำเป็นต้องมีไขมันดีไปทดแทนส่วนที่สึกหรอ แนะนำให้กินไขมันดีระหว่างวัน จำพวกน้ำมันปลา สารสกัดใบแปะก๊วย ปลาที่มีไขมันดีอย่าง ปลาแซลมอน นมถั่วเหลือง วิตามินรวม น้ำมันพริมโรสเป็นน้ำมันดี ที่ทำให้เชลล์ชุ่มน้ำ ส่วนวิตามินซีกินแล้วสดชื่น

อันนี้ไม่รู้ว่าจริง เปล่า แต่ไขมันก็เป็นสิ่งจำเป็นเพราะวิตามินบางอย่างต้องละลายในไขมันเท่านั้น :D

แอบอ้าง
3.  นั่งสมาธิวันละ 12 นาที
หลังจากตื่นนอนแล้ว ให้ตั้งสติและนั่งสมาธิทุกเช้า วันละ 12 นาที เพื่อให้สมองเข้าสู่ช่วงที่มีคลื่น Theta ซึ่งเป็นคลื่นที่ผ่อนคลายสุด ๆ ทำให้สมองมี Mental Imagery สามารถจินตนาการเห็นภาพและมีความคิดสร้างสรรค์ ( ถ้าทำไม่ได้ตอนเช้า ) ให้หัดทำก่อนนอนทุกวัน

การนั่งสมาธิตอนเช้าถ้าทำได้ก็ดี (ผมยังทำไม่ได้เลย) เคยทำอยู่วัน 2 วันก็รู้สึกว่า ร่างกายแจ่มใส เหมือนกับเป็นการเตรียมร่ายกายให้พร้อมที่จะทำกิจกรรมต่อไป

แอบอ้าง
4.  ใส่ความตั้งใจ
การตั้งใจในสิ่งใดก็ตาม เหมือนการโปรแกรมสมองว่านี่คือสิ่งที่ต้องเกิด ระหว่างวันสมองจะปรับพฤติกรรมเราให้ไปสู่เป้าหมายนั้น ทำให้ประสบความสำเร็จในสิ่งต่าง ๆ เพราะสมองไม่แยกระหว่างสิ่งที่ทำจริงกับสิ่งที่คิดขึ้น ทั้งสองอย่างจึงเป็นเสมือนสิ่งเดียวกัน

การใส่ความตั้งใจลงไปในงานที่เราทำทุก ๆ อย่างย่อมทำงานออกมาดี
ปล. ถูกใจ หรือไม่ถูกใจ เจ้านาย หรือ ลูกค้านั่นอีกเรื่อง :D

แอบอ้าง
5.  หัวเราะและยิ้มบ่อย ๆ
ทุกครั้งที่ยิ้มหรือหัวเราะ จะมีสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข หลั่งออกมาเท่ากับเป็นการกระตุ้นให้มีความอยากรักและหวังดีต่อคนอื่นไปเรื่อยๆ

7.  ให้อภัยตัวเองทุกวัน
ขณะที่การไม่ให้อภัยตัวเอง โกรธคนอื่น โกรธตัวเอง ทำให้เปลืองพลังงานสมอง การให้อภัยตัวเอง เป็นการลดภาระของสมอง

8.  เขียนบันทึก Graceful Journal

ฝึกเขียนขอบคุณสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นแต่ละวันลงในสมุดบันทึก เช่น ขอบคุณที่มีครอบครัวที่ดี ขอบคุณที่มีสุขภาพที่ดี ขอบคุณที่มีอาชีพที่ทำให้มีความสุข เป็นต้น เพราะการเขียนเรื่องดี ๆ ทำให้สมองคิดเชิงบวก พร้อมกับหลั่งสารเคมีที่ดีออกมา ช่วยให้หลับฝันดี ตื่นมาทำสมาธิได้ง่าย มีความคิดสร้างสรรค์

อันนี้ก็ดีนะ หัดเป็นคนมองโลกในแง่ดี จะได้ไม่แก่เร็ว

แอบอ้าง
6.  เรียนรู้สิ่งใหม่ทุกวัน
สิ่งใหม่ในที่นี้หมายถึง สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น กินอาหารร้านใหม่ ๆ รู้จักเพื่อนใหม่  อ่านหนังสือเล่มใหม่ คุยกับเพื่อนร่วมงานและเรียนรู้วิธีการทำงานของเขา เป็นต้น เพราะการเรียนรู้สิ่งใหม่ทำให้สมองหลั่งสารเอ็นโดรฟิน และโดปามีน ซึ่งเป็นสารแห่งการเรียนรู้ กระตุ้นให้อยากเรียนรู้และสร้างสรรค์ ไปเรื่อย ๆ เมื่อมีความสุขก็ทำให้มีความคิดสร้างสรรค์

การเรียนรู้สิ่งใหม่ทุกวัน ก็เหมือนเป็นการพัฒนาตัวเองอยู่แล้ว แต่การจะไปหาเรื่องใหม่ ๆ มาเรียนทุกวันอาจจะทำได้ยากหน่อย ต้องทำงานเลี้ยงชีวิตนิ

แอบอ้าง
9.  ฝึกหายใจลึก ๆ
สมองใช้ออกชิเจน 20 25 % ของออกชิเจนที่เข้าสู่ร่างกาย การฝึกหายใจเข้าลึก ๆ จึงเป็นการส่งพลังงานที่ดีไปยังสมอง ควรนั่งหลังตรงเพื่อให้ออกชิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น ถ้านั่งทำงานนาน ๆ อาจหาเวลายืนหรือเดินยึดเส้นยืดสายเพื่อให้ปอดขยายใหญ่ สามารถหายใจเอาออกชิเจนเข้าปอดได้เพิ่มขึ้นอีก 20 %

เหมือนเป็นการนั่งสมาธิไปในตัว :D

ประมาณนี้มั้ง

บันทึกการเข้า
ทำไมดูเน้นคำว่าอัจฉริยะจังเลยครับ
เหมือนอ่านลัคกี้แมน ตอนที่เทนไซแมนปรากฏตัวเลย
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
อ๊ะ  เพราะว่าอันนี้หรือเปล่า ที่บอกให้จิบน้ำบ่อยๆ

เห็นฝรั่งที่เรียนหลักสูตรอินเตอร์ที่ มช. มีขวดน้ำติดตัวตลอดเลย  กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3 4 5
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!