อย่างที่เคยบอกว่าเราเป็นคนฝันแบบสมจริง คือเห็นดีเทล รายละเอียดชัดเจนในฝัน
ถึงจะเป็นฝันที่ไร้สาระ หรือวิ่งหนีผี หนีสัตว์ประหลาดอะไรก็ตาม
แต่รายละเอียดที่เกิดขึ้นในจินตนาการ(?) นั้นมันมีรายละเอียดที่สมจริง
คือเอามาวางบนโลกปกติได้เลย
แล้วเมื่อเช้ามืดนี้อาจถือเป็นครั้งแรกเลยก็ได้ที่ฝันแล้วไม่อยากตื่น
คือตื่นมาแล้วนั่งนึก นั่งพิจารณาอยู่นานว่าเฮ้ย มันดีมากเลยว่ะ
รู้สึกเสียดายที่ตื่นมาแล้วประสบการณ์ที่เพิ่งได้รับมามันหายไปแล้ว
เราฝันถึงบ้าน
ไม่ใช่บ้านหลังปัจจุบันที่ปทุมนะ แต่ในนั้นมีความรู้สึกว่านี่แหละคือบ้านในบั้นปลายชีวิต
คือโปรเจกต์ย้ายออกไปอยู่บ้านนอกนี่ทุกวันนี้ยังวางแผนกันอยู่ แต่ต้องรอให้ลูกโตพอจะออกบินเองได้ก่อน
แต่ระหว่างนี้ก็ยังศึกษาหาดูหนทางที่พอจะไปได้อยู่เรื่อยๆ มันคงเก็บมาฝันน่ะ
(ขออภัยภาพใหญ่ อัปในมือถือ)
ในฝันมันคือโลเคชันสักที่ ที่ระบุเองในหัวว่าเรียกว่า อ่าวน้อย จังหวัดประจวบฯ
แต่ดันเป็นประจวบที่แคบเกินไป คือมีถนนขึ้นเขา คั่นกลางระหว่างทะเลอ่าวไทยกับอันดามัน
แคบมาก และก็ดันเป็นช่วงที่วิวโคตรสวยซะอีก
โดยฝั่งทะเลอันดามันมีเกาะใกล้ๆ ที่มีหาดที่พอน้ำลงปั๊บ เราสามารถเดินหรือปั่นจักรยานไปเดินเล่นที่เกาะได้
(ถ้าของจริงก็คงนึกถึงหาดนพรัตน์ธารา)
แล้วฟ้าสวยมาก พระอาทิตย์ขึ้นฝั่งนึง ตกอีกฝั่ง ฟ้าเปลี่ยนเป็นสีวานิลลาพีช
ไล่แกรเดียนต์นวลเนียน ดาวกำลังขึ้นในโซนฟ้าสีม่วง สวยแบบยืนดูกับเมียบนระเบียงแล้วตกตะลึงอยู่นานมากๆ
ฝั่งตรงข้ามของถนนเป็นศูนย์วิจัยสักอย่างของมหาลัยสักแห่ง ข้ามถนนไปก็ถึง
แล้วถนนมันเป็นเส้นเล็กๆ ไง ไม่ค่อยมีรถ (ได้ไงวะ) พอเดินข้ามไปก็เห็นวิวอีกฝั่งที่สวยมากไม่แพ้กัน
รายละเอียดของตัวบ้านนี่ชัดเจนมากเหมือนของจริงเลย
แต่เป็นบ้านในแบบที่ไม่เคยนึกมาก่อนนะว่ามันมีแบบนี้ คือเกาะผาอยู่
เป็นบ้านที่มีคนขายเพราะร้อนเงิน เลยซื้อมาถูกๆ (รู้สึกจะ 7 ล้าน)
ซึ่งเราก็ไม่ได้มีเงินนะ แต่ก็สามารถกัดฟันกู้ซื้อมาได้เพราะค่าของมันถูกประเมินไว้แพงกว่านั้นมากๆๆๆๆๆ
ตัวบ้านถูกสร้างแปะห้อยอยู่บนผา ชั้นบนสุดจอดรถ มีครัว
เดินลงมาถึงจะเป็นห้องนอนใหญ่ ใช้ชีวิตกันแบบสตูดิโอไทป์นี่แหละ
ด้านหน้าห้องนอนมีระเบียงกว้าง ที่หันไปทางทะเลแหวกข้างหน้า
ส่วนชั้นล่างสุดเป็นห้องจิปาถะที่ไม่ได้ลงดีเทลอะไร รู้แต่ว่ามีจักรยานจอดอยู่
มีทางดินเล็กๆ ให้ปั่นออกไปทางตีนเขาได้
แล้วข้างๆ บ้านไม่ไกลมีโรงแรมหรือหอพัก(…) อยู่เป็นตึกใหญ่
ตอนถามเจ้าของเดิมว่าเวลาพายุเข้านี่ตรงนี้โดนไหม
คำตอบคือไม่โดนเท่าไหร่เพราะมันอยู่ริมผา ไม่ได้ยื่นขึ้นไป แล้วก็มีอีตึกข้างๆ บังลมพายุอยู่
ก็เออ เบาใจและแฮปปี้มากๆ ที่จะมาใช้ชีวิตต่อจากนี้ที่นี่ ก็ต่อเน็ต ส่งลูกเรียนเรียบร้อย
วันต่อมาพอส่งลูกเรียนเสร็จก็เดินข้ามถนนไปชมวิวฝั่งศูนย์วิจัยตรงข้าม คนที่นั่นก็อัธยาศัยดี
ตกเย็นงีบหลับ ตื่นมาปั๊บปรากฏว่าตัวเองหน้าเปียกอยู่ในเรือหางยาวที่กำลังแล่นอยู่ในทะเล ฝนตกปะทะหน้า
เมียนั่งอยู่แถวหน้า หันมาบอกว่าเรากำลังจะไปบ้านแม่บ้านกัน มีแม่บ้านที่อยู่ในเกาะกลางทะเล…
ค่าแรงวันละห้าร้อย แพงหน่อยแต่ว่าแกดีมากในย่านนี้ เลยจะไปขอมาทำงานที่บ้าน
แล้วก็คุยอะไรกันอีกเยอะแยะ เนื้อเรื่องไม่ได้ไปถึงไหนหรอก แต่ใช้ชีวิตประจำวันอยู่ที่นี่
โดยมีสเตตัสในหัว (ในฝันด้วย) ว่านี่แหละบั้นปลายของเรา อยู่ที่นี่และแฮปปี้ไปตลอด
ท้องฟ้าเป็นสีพีช วานิลลา ม่วงพาสเทล แบบนี้ตลอด สวยเหมือนสวรรค์
ตื่นมาโคตรเสียดาย…
หรือที่จริงเรากำลังจะตาย หรือไหลตายสักอย่าง สมองมันสั่งให้เราไม่อยากตื่นอะไรงี้ก็ไม่รู้นะ
แต่ก็ตื่นมานั่งระลึกด้วยหัวใจเต้นแรง แล้วก็เปิดมือถือวงมือวาดรายละเอียดที่เกิดขึ้นก่อนที่จะลืม