หน้า: 1 2 3 [4] 5
 
ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่อง(แฉ)ใหม่ของแอร์กี่  (อ่าน 43678 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
 ง่ะ อ้อ ตาคนนี้ เคยเป็นไกด์ให้ที่รร. คันที่จั๊วนั่ง ตอนไปอยุธยาด้วยล่ะ

แต่ก่อนหน้าที่เค้าจะไปแข่งแฟนพันธุ์แท้ ตอนนั้นเค้ายังให้เบอร์มือถิอกับเพื่อนๆจั๊วอยู่เลย
บันทึกการเข้า

there are no regrets in life, just lessons . .
เอ่อ

ใครก็ได้ ช่วยสรุปทั้งสองทู้ให้หน่อยได้มะคะ
 ง่ะ
บันทึกการเข้า

ที่สุดถ้ามันจะไม่คุ้ม
แต่มันก็ดีที่อย่างน้อยได้จดจำ
ว่าครั้งนึงเคยก้าวไป...


ด่ากันไปมา  หน้ามึน

บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
มันส์ดีแหะเรื่องนี้  ง่ะ

ทีแรกอ่านก็ตะขิดตะขวงใจ เพราะใครอ่านแล้วคุ้นเคยกับวงการนี้บ้าง ก็น่าจะรู้ว่าตัวจริงนนท์คือใคร
ส่วนแอร์กี่ก็เปิดตัวตนจริงๆ ไปแล้วตอนงานสัปดาห์หนังสือฯ... ก็เลยมีตัวตนทั้ง 2 ฝ่ายในที่สาธารณะ

ถ้าแอร์กี่กับแก้มไม่ได้เป็นคนเดียวกัน เรื่องนี้แอร์กี่ ก็ไม่เสียอะไรเลย เพราะเล่าเรื่องในฐานะบุคคลที่ 3 ที่เดือดร้อนแทนเพื่อน... แต่พอเรื่องหักมุม กลายเป็นแก้มและแอร์กี่เป็นคนเดียวกัน... โอ้โห... ตึ่งโพะมากเลย... กลายเป็นหักมุม แล้วแอร์กี่ก็จะเป็นตัวละครที่ผิดไปเลยทีนี้...

แต่จะเป็นยังไงต่อก็คงต้องดูต่อไป... เพราะประเด็นหลักของเรื่องที่จะเป็นคนเดียวกันหรือเปล่า ยังสรุปไม่ได้ ล่าสุดก็เห็นแอร์กี่มาปฎิเสธจุดนี้ไปแล้ว...

ปล. ผมไม่ได้พูดในแง่ที่ว่าจะเอาเรื่องเค้าเป็นเดือดเป็นร้อนในชีวิตผม หรือใครๆ นะครับ... เดี๋ยวจะมีคนเข้าใจผิดอีก... นี่พูดในแง่ที่ว่าเอานิยาย หรือละครมานั่งดูกัน แล้วนั่งคุย นั่งวิจารณ์กันครับ
บันทึกการเข้า
เอ่อ

ใครก็ได้ ช่วยสรุปทั้งสองทู้ให้หน่อยได้มะคะ
 ง่ะ

เหมือนกันครับ ขี้เกียจตามอ่าน กร๊าก
แต่ก็เข้ากับจริตคนดู AF ดีเหมือนกัน (ตูไม่ดู)
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องอื่นๆ เพื่อนส่งมาให้อ่าน แต่รู้สึกเป็นกระทู้แนะนำในสวนลุมด้วย


http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L5468462/L5468462.html

แอบหักมุมดีเหมือนกัน
บันทึกการเข้า
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องอื่นๆ เพื่อนส่งมาให้อ่าน แต่รู้สึกเป็นกระทู้แนะนำในสวนลุมด้วย


http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L5468462/L5468462.html

แอบหักมุมดีเหมือนกัน
ละโว้  ยิ้มน่ารัก

ขนาดหรั่งดักไว้ทั้งจู๋พันทิป แล้วก็FWD แล้วนะเนี่ย
บันทึกการเข้า
ละโว้  ยิ้มน่ารัก

ขนาดหรั่งดักไว้ทั้งจู๋พันทิป แล้วก็FWD แล้วนะเนี่ย

 ฮือๆ~
บันทึกการเข้า
กร๊าก
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
อ๋อ ดาจำได้แล้ว

ตอนแรกดาตอบไป แล้วมันไม่เสร็จซะที เลยกดตอบใหม่

ว่าแต่ ทำไมมันไปโผล่อีกจู๋ให้หน้าแตกล่ะ  ฮือๆ~
บันทึกการเข้า
ขุดๆ นึดนึง  เนื่องจาก กระืทู้ในพันทิพย์โดนอุ้มไปหมดแล้ว



พี่เค้ามาตอบไว้อันนี้อะ
แถลงการณ์ถึง คุณแอร์กี่ (แม่ยกไดอารี่ สตอรี่ผ่านคอม ) จาก นนท์

http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L5488387/L5488387.html
--------------------------------------------------------------------------------

สวัสดีท่านผู้มีเกียรติ์ทุกท่านครับ

หลังจากฟังเรื่องราวต่างๆนาๆมามากพอสมควรแล้ว จะยุติธรรมไหมครับที่ทุกท่านไม่เคยได้สัมผัส ไม่ได้รู้จัก บุคคลใดๆในเรื่องเป็นอย่างดี แต่ก็สามารถสรรเสริญ สงสาร ด่า สาปแช่ง ได้อย่างสนุกสนาน โดยผู้เขียนใช้วิธีจิตวิทยาบางประการด้วยการใช้สมมติชื่อคนอื่นก็ดี อาศัยสิ่งที่มองเห็นได้จากภายนอกบางมุมแล้วใส่เรื่องเข้าไป แล้วใช้หลักการหนึ่งคือการโกหกแบบชนิดที่เรียกว่าใครมันจะแต่งเรื่องได้ขนาดนี้ถ้าไม่ใช่เรื่องจริง แต่คงไม่ยากเกินไปสำหรับผู้ที่จบอักษรศาสตร์หรอกครับ ผม นนท์ในเรื่อง หรือ นิรุตต์ ครับ ไม่ได้ออกมาแก้ต่างอะไรแต่อยากแจ้งไว้ดังนี้ว่า

เรื่องนี้ทำไมคุณแอร์กี่ไม่กล้ารับว่าเป็นคนเดียวกับคุณแก้มล่ะครับ ขึ้นต้นเรื่องก็หลอกกันซะแล้ว พอคนอื่นถามก็ออกตัวเป็นตุเป็นตะ เพราะว่าจะได้ชมตัวเองได้อย่างสะดวกใจ ว่าสวย รวย เพียบพร้อมทุกประการอย่างไม่เคอะเขิน หรือ กลัวคนอื่นรู้ว่าเรื่องอดีตสามีที่แต่งไว้ก่อนหน้านี้โกหก เพราะตอนจบบอกคนอื่นเขาไปแล้วว่ามีความสุขดี แท้ที่จริงได้หมายตาเหยื่อรายต่อไป เพื่อชดเชยความผิดหวังเสียใจในชีวิตครอบครัว ซึ่งเป็นเด็กหนุ่มหมายจะมาแทนที่ในคราบแม่บุญธรรม เรื่องนี้ใครเป็นเหยื่อใครอย่าเพิ่งรีบสรุปแล้วกันนะครับทุกท่าน ลองอ่านกันไปเรื่อยๆก่อนครับ



เริ่มต้นจากที่ผมเองก็เป็นเพียงเด็กผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่มีรัก โลภ โกรธ หลง มีดี มีชั่ว ในความเป็นจริงไม่น่าจะต่างจากคนอื่นเท่าไหร่ ใครดีกับเราก็ดีตอบ ใครคุยกับเราแล้วมีรสนิยมเดียวกันก็คุยกันถูกคอ

เมื่อวันหนึ่งที่ได้พบกับคุณแอร์กี่ ยอมรับครับว่า เป็นคนที่อัธยาศรัยดี มีน้ำใจ และมีความรู้กว้างขวาง รวมทั้งเรื่องประวัติศาสตร์ที่ผมชอบ จากนั้นจึงคุยเรื่อยมา และจากคำนามที่จะใช้เรียกขาน ด้วยความที่มีอายุใกล้เคียงกับแม่ผม คุณแอร์กี่จึงให้เรียกแม่ตามด้วยชื่อเล่นของเธอ  จากคำพูดนี้นำไปสู่การขอผมให้เป็นลูกบุญธรรม เดินทางไปขอกับแม่ผมถึงที่อยุธยา (ด้วยความจริงใจของคุณแอร์กี่จึงได้ดูถูกคิดอติแม้กระทั่งกับแม่ผมตั้งแต่เริ่มต้น)  ด้วยเหตุผลที่ว่าอ้างว่าผมเหมือนลูกที่หายไปรู้สึกผูกพันเหมือนเคยเป็นแม่ลูกกันชาติก่อน  แล้วจึงมาบอกผม

ซึ่งผมเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ นึกเพียงว่ามีคนเมตตาก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี และคิดอยู่เสมอว่าเราเองไม่ได้มีดีอะไรคงไม่ใครมาคิดร้ายกับเรา เมื่อท่านดีกับเรา สิ่งใดที่ตอบแทนได้ก็จะทำอย่างเต็มที่ และพอดีกับจังหวะหรือตั้งใจไม่ทราบได้ เมื่อได้ทราบว่าคุณแอร์กี่ป่วยเป็นโรคประหลาด รักษาไม่หาย คุณแอร์กี่อ้างว่าตอนนี้ต้องการคนช่วยเหลือในยามคับขัน เพราะสามีเป็นนักบิน และเป็นห่วงน้องๆ ที่ยังเด็กอยู่ หวังพึ่งพาผมยามยากจึงอยากให้อยู่คอนโดเดียวกัน ผมปฏิเสธอยู่หลายครั้ง และครั้งสุดท้ายผมได้แจ้งว่า ถ้าจะให้ผมย้ายต้องยินยอมอย่างสบายใจไม่ตะขิดตะขวงใจต้องให้ผมเช่าในราคาที่ผมคิดว่าจ่ายได้สูงสุดในรายได้เท่าที่คิดว่าจ่ายได้ คือ ห้าพันบาทต่อเดือน และยินดีช่วยงานทุกอย่างเท่าที่ทำได้ 

ปรากฏว่าย้ายเข้าไปได้ไม่นาน คุณแอร์กี่ก็ได้เล่าเรื่องสะเทือนใจเกี่ยวกับสามีว่ามีเมียน้อย จากคำบอกกล่าว ของคุณแอร์กี่ว่าเขาไม่เข้าใจว่าทำไม ถึงต้องไปเลือกผู้หญิงที่มีอายุ 30 กว่าเข้าไปแล้ว นิสัยไม่ดี ชอบโทรมาก่อกวน สารพัดต่างๆนาๆ ผมรับฟังมาตลอด แต่ได้แค่สงสัยว่าในเมื่อผู้หญิงคนนั้นไม่มีดีอะไรเลย และตัวคุณแอร์กี่ดีทุกอย่างแต่ทำไมกัปตันถึงได้ทำเช่นนั้น 

สิ่งที่ผมทำได้เพียงปลอบใจ ให้กำลังใจ พากันไปไหว้พระซึ่งคุณแอร์กี่ไม่ได้กล่าวถึงตรงนี้เลย เพื่อผมจะได้เลวอย่างสนิทใจ  ผมดูแลท่าน ท่านดูแลผม ให้กันไปกันมา ผมเคยบอกกับท่านแล้วว่าผมทำได้เท่านี้เต็มความสามารถผมแล้ว เพื่อสนองบุญคุณที่ท่านดีกับผม   ผมยอมรับครับว่าเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายหลายอย่างคุณแอร์กี่เป็นคนให้  บัตรเครดิตท่านก็เป็นคนให้แต่ยืนยันได้ว่าไม่ได้มากมายอย่างที่กล่าวอ้าง จำนวนถึงแสนหรือไม่ยังไม่ใจด้วยซ้ำ  เงินสดจำนวนหนึ่ง แม้แต่รถยนต์ ทุกอย่างผมขอสาบานโดยกล้าใช้ชีวิตตัวเองและครอบครัวผมไว้เลยว่า ไม่เคยเรียกร้องแต่ประการใด ไม่เคยร้องขอหรือทุจริตด้วยอกุศลจิตแต่ประการใด

แต่จำนวนด้วยประโยคของคุณแอร์กี่ที่ว่า "ขอให้รับจากแม่ไปเถอะ เป็นการชดเชยเวลาที่ไม่เคยได้เลี้ยงดูในวัยเยาว์ แม่มีความสุขที่ได้ให้และไม่เคยคิดเล็กคิดน้อยจดจำสิ่งใดเลย ให้แล้วจะไม่มีวันเรียกร้องคืน อย่าปฏิเสธน้ำใจแม่เลย แม่ขอเท่านี้แหละ"   

แล้วเป็นอย่างไรบ้างก็อย่างที่ทุกท่านทราบ คุณแอร์กี่จะกล้าปฏิเสธไหมครับ  แต่ผมรู้ว่าคุณต้องปฏิเสธ ไม่เป็นไรครับ  ขอประกาศไว้อีกครั้งว่า ณ โอกาสนี้เลยครับว่า ทุกสลิป ทุกบาททุกสตางค์ที่เคยได้รับจากคุณแอร์กี่ ผมยินดีจะชดใช้ให้ทั้งหมด ผมใช้คำว่าอีกครั้งเพราะ ตอนนี้ได้ออกมาได้เคยพูดประโยคนี้กับคุณแอร์กี่แล้ว แต่คุณแอร์กี่ยังคงพูดประโยคเดิมอยู่ แต่ไม่เป็นไร แต่ขอให้เป็นยอดที่แท้จริงนะครับ

เรื่องเขียนเช็คที่โกหกถ้าเป็นไปได้เอามายืนยันด้วยได้นะครับ  ส่วนเงินที่สัญญาเรา้ยืมได้คืนให้แล้วนะครับ มีสัญญาอยู่ถูกต้องชัดเจน แต่ถ้าคิดว่าไม่ใช่ เชิญฟ้องเป็นคดีได้นะครับ  ทุกเรื่องยินดีชดใช้ให้อย่างตรงไปตรงมา ขอเพียงคุณแอร์กี่กล้าพอ และจริงใจพอ ผมพร้อมเสมอ ตามอีเมลล์นี้แจ้งรายละเอียดมาได้เลย

ส่วนเหตุการณ์ต่อจากนั้น ผมเริ่มมีแฟน ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป คนรอบๆตัวผมหายไปหมด โดยที่ผมเองก็ไม่เข้าใจ  ทราบจากคุณแอร์กี่เพียงว่า คุณจันทร์ได้ไปใส่ร้ายผมกับคุณนก และ น้องยุพาพร จนกลายเป็นความบาดหมางกันอย่างใหญ่โต ผมเชื่อคุณแอร์กี่อย่างสนิทใจเหมือนอย่างที่ทุกท่านเชื่อ ว่าคนๆนี้จะไม่มีทางไปโกหกหลอกลวงสร้างเรื่องเพื่อทำลายผู้อื่น 

จนกระทั่ง แม่ผมโกรธผมมากไม่คุยด้วยกัน ผมก็โกรธแม่ที่แม้มีอคติกับแฟนถึงขนาดแอบทิ้งรูปแฟนผม  และแล้วเมื่อวันที่ผมกับแม่เปิดคุยกันว่าเกิดอะไรขึ้น แม่ผมบอกว่า "ทำไมแกถึงต้องไปเอาเงินเขามากมาย แม่ไม่ได้ภูมิใจหรอกนะที่ แกเอาเงินเค้ามาทำบ้าน และให้แม่ไปปักกิ่ง" ผมอึ้งและงงต่อสิ่งที่แม่พูด เพราะเงินที่ทำบ้านและให้แม่ไปเที่ยวคือเงินขอผมเองทั้งหมด มีเพียงเงินหยวนที่คุณแอร์กี่มอบมาให้ติดตัวไว้ใช้จำนวนหนึ่งเท่านั้น 

แม่ผมฟังคำตอบจากผมด้วยความงง แล้วถามว่า "แกไม่ได้เอาเงินเขามาเหรอ"  ผมปฏิเสธอย่างมั่นใจ  แล้วผมถามเรื่องรูปแฟน แม่ผมได้บอกความจริงว่า คุณแอร์กี่เป็นคนฉีกทิ้งแล้วเกิดกลัวว่าผมจะถาม เลยเตี๋ยมกับแม่ไว้ว่า แม่ผมเป็นคนทิ้ง  เมื่อมีหลายสิ่งที่ผมไม่อาจพรรณาตรงนี้ได้หมดแล้วปะติดปะต่อกัน จึงฉุกคิดได้ว่าแล้วเรื่องคุณจันทร์ที่ว่าด่าผมมาตลอด อาจไม่ชอบมาพากล จึงรวบรวมความกล้าโทรไปหา ทั้งๆที่ควรทำอย่างนี้มาตั้งแต่แรก แต่ด้วยความคิดโง่ๆที่ว่า "ใครจะว่าเราก็ช่าง ไม่เป็นไร ไม่สนใจ เป็นเพื่อนกันแท้ๆ กลับไม่เชื่อใจกันพูดกันไปคงไม่มีประโยชน์" 

เมื่อมีการเปิดอกคุยกันกับทุกฝ่ายจึงได้รู้ความจริงว่า ตลอดเวลาคุณแอร์กี่ได้นำคำพูดของผมบางประโยคให้ดูสมจริงแล้วเอาไปแปลความหมายใหม่ว่า ผมได้พูดจาให้ร้ายกับคุณนก ซึ่งเรื่องผมเองกล้าท้าคุณแอร์กี่ สาบานที่วัดพระแก้ว โดยเอาชีวิตตัวเองและครอบครัวเป็นเดิมพันยังได้ว่า ไม่เคยมีประโยคใดกล่าวร้ายแม้เพียงครึ่งคำถึงคุณนกเลย และไม่เคยกล่าวร้ายถึงใครเพื่อเป็นสะพานเยียบหัวคนอื่นเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งของมีค่า  ทุกท่านลองคิดดูนะครับว่าถ้าเราด่าคนอื่นเสียหายๆเพื่อเอาใจ เพื่อทรัพย์สิน ท่านจะให้คนแบบนั้นไหมครับ แต่คงมีนะครับคนแบบนั้นคงเป็นคนที่โง่ที่สุด แต่ลองคิดดูนะครับว่าจากประโยคต่างๆของคุณแอร์กี่แสดงว่าไม่ได้เป็นคนไม่โง่ขนาดนั้นนะครับ   และที่เลวร้ายที่สุดก็คือ  พยายามติดต่อยุพาพรเพื่อใช้เด็กเป็นสะพานส่งข่าวทั้งข่าวที่ผมด่าคุณนก และลักษณะเชิงชู้สาวกับผมต่างๆนาๆ จนยุพาพรไม่อยากจะยุ่งด้วย 

เมื่อผมทราบจึงได้มีการพูดคุยเพื่อหาข้อเท็จจริงกับคุณแอร์กี่   คุณแอร์กี่ยอมรับว่าได้โกหกเรื่องเงินซ่อมบ้านและเงินที่ให้แม่ไปเที่ยวปักกิ่งจริง และด้วยความโกรธจึงได้ฉีกรูปแฟนผม  รวมทั้งยังแอบเข้ามาลื้อห้องผมตอนที่ผมไม่อยู่  แต่เรื่องคุณนกกับยุพาพร คุณแอร์กี่ได้ปฏิเสธ และยังคงย้ำกับผมว่า ผมไม่เคยว่าคุณนก ตัวเขาเองก็ก็ไม่รู้จักไม่เคยเจอคุณนกแล้วเขาจะว่าได้อย่างไร  คงเป็นคนอื่นใส่ร้ายมั้ง   ส่วนที่ฉีกรูปแฟนผมเพราะอ้างว่าแฟนผมเป็นคนไม่ดี ถึงขนาดไปตามสืบ ซึ่งแน่นอนครับ ริดชี่ไม่มีตัวตนจริง แต่น้องแพมมีแฟนเป็นลูกเจ้าของร้านอาหาร ผมเจออยู่บ่อยๆ เพราะมาคอนโดทีไร ก็เข้าไปอยู่กับน้องแพมให้ห้องนอนตามลำพังอยู่เป็นชั่วโมงๆ  เป็นกุลสตรีดีนะครับ คุณแอร์กี่เองก็เห็นได้แต่โกรธแต่ทำอะไรไม่ได้ใช่ไหมครับ

จนกระทั่งฟางเส้นสุดท้ายที่แท้จริง คือ  คุณแอร์กี่ต้องการให้ผมเลิกกับแฟน ถ้าไม่เช่นนั้นก็เชิญออกจากคอนโด  แน่นอนครับ ผมขอเลือกออกจากคอนโดครับ พร้อมกับนาฬิกา และรถยนต์

เมื่อผมตัดสินใจแล้วคุณคงไม่กล้าเล่าว่า คุณได้พยายามขอร้องผมต่างๆนาๆให้ผมอยู่ต่อ โดยไม่มีข้อแม้  ถึงขนาดเข้าโรงพยาบาล และมีอาการโรคเก่ากำเริบ ต้องผ่าตัดด่วน ขอร้องให้ผมมาเยี่ยม  เมื่อผมไปเยี่ยมก็กล่าวรำลึกความหลังก่อนๆ และขอให้กลับมาอีกครั้ง เมื่อตอนผมกลับ ได้แวะไปที่เคาท์เตอร์หน้าห้องผู้ป่วยเพื่อถามอาการ ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่บอกเพียงแค่ว่า มาตรวจสุขภาพ เพราะคนไข้บอกว่าเวียนหัว ตอนนี้ไม่เป็นอะไรมาก

ตอนนั้นผมหน้าชามาก และเหมือนกับเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้าย  เหมือนกับคุณแอร์กี่รู้ว่าผมไปสอบถาม  จึงรีบโทรมาบอกผมว่าบังคับให้พยาบาลพูดเช่นนั้น  ผมเองถึงจะโง่มานาน แต่ก็ไม่โง่ขนาดนั้น แต่ก็ตอบได้เพียงแค่ว่า "ครับ" แล้วก็จากไป

ไม่นานนักหลังจากแข่งขันเสร็จ ผมได้เดินทางไปขอขมากับทุกคนที่เกี่ยวข้องเพื่อขออโหสิกรรมกับสิ่งที่เกิดขึ้น  ไม่ว่าจะเป็น คุณนก ยุพาพร คุณจันทร์ และทุกคนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งคุณแอร์กี่ด้วย ครั้งสุดท้ายที่เราได้คุยกันผมยังจำได้แม้ว่าคุณจะไม่ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นก็ตามที  แต่ผมได้ขออโหสิกรรมในทุกๆเรื่อง ที่ได้ล่วงเกินไปทุกอย่าง หากยังคงติดค้างสิ่งใดขอให้บอกยินดีจะชดใช้ให้   ส่วนคุณแอร์กี่ก็ตอบว่า  "แม่...เองก็ขอโทษต่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้น และขอให้ลูกอโหสิกรรมให้แม่ด้วย ส่วนสิ่งใดที่ให้แล้วจะไม่ขอคืนทุกสิ่งทุกอย่าง"  ผมเองก็กล่าวว่า "ผมอโหสิฯครับ"   คุณแอร์กี่ก็ตอบว่า "แม่อโหสิฯเช่นกัน"   ผมก็ได้แต่บอกว่าใครถูกผิดเป็นเรื่องยากจะตัดสินให้เวลาเป็นเครื่องทดสอบก็แล้วกัน

เวลาผ่านมา3ปีแล้ว เวลาได้พิสูจน์แล้วว่าใครเป็นอย่างไร คุณนก ยุพาพร คุณจันทร์ คุณรมย์ แฟนผม และตัวผมเองต่างอโหสิกรรมให้แก่กันและกันรวมทั้งให้คุณด้วย ต่างฝ่ายต่างมีชีวิต มีหน้าที่ มีความสุขในมุมของตัวเอง แต่คุณกลับลืมคำและยังคงฝังใจ แท้ที่จริงแล้วคุณไม่ได้จริงใจเหมือนที่บอกกับใครๆ  ไม่พอใจที่พวกผมอยู่กันอย่างมีความสุข ส่วนคุณกลับไม่เหลือใคร ไม่ผิดหรอกครับที่ผมพูดคำนี้ เพราะในความเป็นจริงแม้แต่ลูกๆของคุณยังไม่ได้ใกล้ชิดคุณเลย ไม่เหมือนที่คุณสร้างภาพบอกคนอื่น ผมเข้าใจว่าไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่รักคุณแต่ ด้วยวัยของพวกเขาติดเพื่อนมากกว่า คุณเองก็เข้าใจข้อนี้และไม่อยากให้ลูกหงุดหงิดจึงได้ตามใจ  ผลก็คือคุณก็ต้องการใครสักคนเพื่อมาดูแลและอยู่ใกล้ๆเหมือนปถุชนทั่วไป ผมคือคนที่เข้าไปตรงนั้นพอดี คุณคงคิดว่าคุณทั้งสวย ทั้งรวย ชาติตระเราลดี ความรู้ดี แต่ทำไมคนรอบตัวคุณถึงไม่มีใครจริงใจ สามีก็ทิ้ง แม่สามีที่คุณกล่าวหาต่างๆนา กลับยอมรับผู้หญิงคนนั้น แปลกไหมครับว่า

ตอนนี้ผมมีความสุขในมุมเล็กๆของผมไม่ได้ทุกข์หรือเดือดร้อนอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นจากคุณ เพราะผมว่าท้ายที่สุดแล้วคนเราใช้ชีวิตร่วมกับคนไม่กี่คนหรอกครับ แคร์คนที่เขาแคร์เราดีกว่า ผมมีเพื่อนๆที่ให้กำลังใจอยู่สี่ห้าคนแค่นี้ก็มีความสุขแล้ว และที่สำคัญตอนนี้ผมมีเจ้าตัวเล็กพี่เพิ่งลืมตาไม่กี่เดือนอยู่ข้างๆ ใครจะว่าอะไร จะเชื่อหรือไม่   ไม่สำคัญแล้วครับ

ส่วนคุณล่ะ คุณเหลือใครบ้างที่รักและแคร์คุณ  คุณหลอกคนอื่นได้แต่คุณหลอกตัวเองไม่ได้หรอกครับ  คุณเหลือเพียงจอสี่เหลี่ยม ไว้ล่อเหยื่อเรียกร้องความสนใจ  อาศัยให้เหยื่อคอยช่วยด่าช่วยสาปแช่งคนที่เราไม่ชอบ ดูน่าสนุกดีนะครับ และ ถ้าหากว่าคุณถูกใครข่มขู่ ก็ขอให้คุณแจ้งความดำเนินคดีดีกว่าครับ อย่าไปกลัว หลักฐานก็มี เบอร์โทรศัพท์ก็มี จะได้ไม่เป็นเยี่ยงอย่าง  เอาเลยครับเดี๋ยวคนอื่นเขาจะนึกว่าสร้างสถานการณ์หรือสร้างกระแสความน่าเห็นใจ บ้านเมืองมีเขื่อมีแปร  ถ้าขู่กันและมีหลักฐานขนาดนั้นแจ้งความได้อยู่แล้ว ยกเว้นทางอินเตอร์เน็ตนี้แหละครับ ที่ใครอยากทำอะไร อยากด่าใครยังไงก็ได้

ทุกท่านที่อ่านครับ ลองเปิดใจกว้างอีกสักมุมดูแล้วกันนะครับ สำนวนดูสนุก คล้ายความน่าสงสาร แต่แฝงด้วยความแค้น ทุกถ้อยคำ ทุกคนในเรื่องเป็นคนเลวหมดเลย แม้แต่คนที่ไม่เกี่ยวข้อง ก็ถูกดึงเข้ามาให้แปดเปื้อน มีดีชนิดจิตใจประเสริฐอยู่แค่2-3คน 

สัจจะธรรมข้อนึงนะครับที่ผมคิดว่าน่าจะใกล้เคียงความจริง คือ ทุกคนแม้แต่โจร ยังต้องมีมุมดีๆบ้างในชีวิต มีมุมที่กลับตัวกลับใจ เช่นเดียวกับองคุลีมาล  คนดีๆก็ต้องมีพลาด มีเผลอด้วยอารมณ์พาไป  คงไม่มีใครเลวบริสุทธิ์ หรือ ถ้าเป็นปถุชน คงไม่มีใครดีทุกสิ่งทุกอย่าง  ผมยอมรับครับ ว่าเคยทำผิดหลายสิ่งหลายอย่างในชิวิต แต่คงไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาสาธายาย  ผิดแล้วก็แก้ไข  ดีแล้วก็ทำต่อ ก็นี่แหละครับ "คน”

แล้วอะไรคือบทพิสูจน์ ผมว่า ปัจจุบันครับ วันนี้พวกผมรักกันดี มีทะเลาะบ้าง ความเห็นไม่ตรงกันบ้าง แต่มีอะไรพวกเราให้อภัยกันเสมอ  เพราะบนพื้นฐานจิตใจเราต่างรู้กันดีว่าใครเป็นอย่างไร มากกว่าที่ใครบอกว่าไม่ลืมหูลืมตา    และเห็นด้วยกับทุกท่านครับว่า ของยังนี้คงต้องเป็นเรื่องของกรรม  ใครก่อ คนนั้นก็คงได้ไป  เราไม่ใช่ศาลเตี้ย  หากเราไม่รู้ข้อเท็จจริง และได้ตัดสินคนอื่น จะคำพูด หรือสิ่งใดก็ดี  หากเขาไม่ได้เป็นเช่นนั้นจริง  เราจะบาปกันไหมครับ

สุดท้ายครับ คุณจะมาโต้ตอบอย่างไร ก็ตามใจครับ  พวกเราแสดงจุดยืนอีกครั้งว่า  "เราอโหสิกรรมให้ครับ"
บันทึกการเข้า

ตั้งแต่เมื่อฉันรู้จัก และฉันได้มาพบเธอ มันทำให้ฉันต้องเปลี่ยน  เปลี่ยนแปลงหัวใจฉันไป ได้เรียนรู้สิ่งใหม
อ๊าาาาต้นฉบับหน้าขาวไปแล้ว
เรื่องแอร์กี่ไม่เคยอ่าน เพราะแว่บๆ แล้วรู้สึกขี้โม้มาก น้ำเน่าเกิ๊น

ความจริงปรากฏแล้วฤานี่ กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า

บล็อกในมุมมืด
because we always.....expecting

"ชั้นไม่ได้เขียนบนหัวนมใคร ไม่เห็นต้องเป็นเดือดเป็นร้อน"


 กรี๊ดดดดด


ฟังแล้วแปลกๆแฮะ ไอ้มืดหมี
บันทึกการเข้า

ประมาณ ว่าอย่าเจือก

ตอนนั้นไม่รู้ว่าเรื่องจริงๆ (เอาคนตัวเป็นมาแฉๆ (จริงๆ ไม่จริงๆ ไม่รู้นะ))


แต่ถ้าเรื่องจริง ต่อให้ไม่ได้เขียนบนหัวนม ก็คงเดือดร้อนล่ะ
เล่นลากตัวเป็นๆ ออกมาแล้วนี่ ตัวเป็นๆ เขาก็ต้องโวยซิ่ครับ  ฮิ้ววว
บันทึกการเข้า
แล้วไงต่ออยากรู้ไม่เคยอ่านไม่เคยดูละครแต่พอมาอ่านในนี้แล้ว โห  สนุกนิ (อิอิ)
บันทึกการเข้า

สมาชิกสมาคมพ่อบ้านทหารบก
หน้า: 1 2 3 [4] 5
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!